เมื่อช่วงเวลาของโลกแฟชั่นเปลี่ยนผ่านจาก ฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ผลิ สู่ ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว โลกของทรงผมก็ก้าวเดินไปพร้อมๆ กับโลกแฟชั่นเช่นกัน ซีซั่นนี้เทรนด์ผมผู้ชายขับเคลื่อนด้วย ‘ความหลากหลาย’ ที่ไม่จำกัดอยู่แค่ความเนี้ยบเรียบร้อยหรือความดิบเท่ แต่ผสานทั้งสองขั้วเข้าด้วยกันอย่างมีชั้นเชิง
ตั้งแต่ลุคดรามาติกที่แฝงกลิ่นอายกูตูร์ ไปจนถึงเส้นผมชี้ตั้งสุดพังก์ที่บ่งบอกความขบถในตัวเอง ทุกลุคล้วนเป็นการสะท้อน ‘ตัวตน’ ผ่านเส้นผมที่ทรงพลังและมีเรื่องราว พร้อมให้คุณเลือกหยิบมาปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองในฤดูกาลใหม่นี้
#1 Romantic Revival
ผมของนายแบบจากโชว์ Dior ถูกหวีเสยเรียบกริบไปด้านหลัง เติมความมันวาวด้วยเจลหรือโพเมดเพื่อเสริมความเนี้ยบ จากนั้นตกแต่งด้วยริบบิ้นผูกตาเพิ่มดรามาติกเอฟเฟกต์ สะท้อนกลิ่นอายกูตูร์
#2 Casual Curls
ครีเอตลุคคลาสสิกแบบ Old-School Gentleman ด้วยผมลอนเป็นธรรมชาติ ปลายผมปล่อยอิสระ ไม่ต้องเซตให้แข็ง ยกโคนนิดๆ เพิ่มวอลูมไม่ให้ลีบแบนติดหนังศีรษะ แสกข้างเปิดกรอบหน้าให้ดูอ่อนโยน สดชื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ แต่ยังมีความเนี้ยบ
#3 Sculpted Quiff
ด้านบนยกสูงเป็นทรง Quiff ครีเอตเท็กซ์เจอร์และโครงสร้างชัดเจนให้โค้งรับรูปศีรษะ ผมด้านข้างใช้โพเมดแบบ semi-matte ปาดเรียบเก็บไปด้านหลัง ทำให้ใบหน้าดูทรงพลัง โฉบเฉี่ยว ดิบเท่ แฝงไปด้วยกลิ่นอายพังก์
#4 Punk Spikes
เส้นผมถูกเซตด้วยผลิตภัณฑ์สูตร Strong Hold ที่มีการยึดเกาะสูง ทำให้ตั้งชี้เป็นแนวโค้งรับศีรษะ ครีเอตเป็นสไปก์แหลมสูงคล้ายครีบหรือหนามแบบพังก์ยุค 80s แสดงออกถึงความดิบเท่และพลังงานขบถ เป็นการย้ำเตือนว่าไอคอนิกสไตล์ไม่มีวันตาย
#5 Bedhead Waves
ลอนผมยุ่งนิดๆ โชว์การเล่นเลเยอร์ที่ไม่เรียบเนี้ยบ แต่ยังควบคุมทิศทางได้ ใช้สเปรย์หรือมูสแบบ semi-matte สร้างเท็กซ์เจอร์ให้ดูเปียกหมาด ปล่อยปอยผมตกลงมาปิดกรอบหน้าเล็กน้อยแบบไม่ตั้งใจ กลายเป็นลุคที่มีความเท่แบบไม่ประดิษฐ์
#6 Stringy Look
เว็ตลุคที่เหมือนเปียกโชกไปด้วยสายฝน เซตให้เส้นผมแยกตัวเป็นช่อตกลงมารอบกรอบหน้า ดูดิบแบบกรันจ์ มีพลังงานของ Underground Club Culture แฝงอยู่เต็มเปี่ยม