Photographer: Pathomporn Phueakphud
หากพูดถึงศิลปินรุ่นใหม่ที่แฟนๆ T-POP จับตามองอย่างต่อเนื่อง ชื่อของ โฟร์ท ณัฐวรรธน์ คงติดอยู่ในลิสต์ต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย จากภาพลักษณ์อบอุ่นละมุนที่ทำให้หลายคนรู้จักและตกหลุมรัก ผ่านซิงเกิลแรก ซึมซับ (Doubtless) ที่ถ่ายทอดความรู้สึกแบบตรงไปตรงมาและซื่อบริสุทธิ์ จนกลายเป็นเพลงที่สร้างตัวตน ‘หนุ่มไมโครเวฟ’ ให้กับเขาไปโดยปริยาย
แต่ในเส้นทางของศิลปิน ไม่มีใครอยากยืนอยู่ที่เดิม โฟร์ทเองก็เช่นกัน ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมพลังใหม่ในซิงเกิล Side To Side ที่เหมือนการเปิดประตูไปสู่อีกโลกหนึ่งของเขา โลกที่เต็มไปด้วยความสนุก จังหวะเร้าใจ และเสน่ห์ที่ขี้เล่น เซ็กซี่ และน่าค้นหายิ่งกว่าเดิม เพลงที่ไม่เพียงบอกเล่าการเติบโตทางดนตรี แต่ยังสะท้อนการกล้าเผยอีกมุมของตัวเองที่แฟน ๆ ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
Side To Side ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแนวเพลงจากช้าอบอุ่นมาสู่เพลงจังหวะสนุกที่ชวนลุกขึ้นเต้น แต่คือการคัมแบคครั้งสำคัญที่ทำให้เห็นว่า โฟร์ทกำลังเดินบนเส้นทางของศิลปินที่พร้อมจะลองสิ่งใหม่ ๆ ท้าทายความสามารถของตัวเอง และยืนหยัดในฐานะหนึ่งในศิลปินหนุ่มรุ่นใหม่ที่น่าจับตาที่สุดในตอนนี้
เพลงและคอนเซ็ปต์
โฟร์ทเล่าว่า “Side To Side” แตกต่างจาก “ซึมซับ” อย่างชัดเจน เพราะจากเพลงช้าแบบอบอุ่นที่ไม่มีท่าเต้น มาสู่จังหวะที่ดีดขึ้น สนุก และขยับได้ทั้งกายและใจ “เพลงนี้มันมีความเป็นเซ็กซี่ ขี้เล่นหน่อย ๆ” โฟร์ทอธิบาย “ต่างจากเพลงก่อนที่สื่อสารเรื่องความรู้สึกแบบตรงๆ”
เนื้อหาของเพลงก็ชวนให้ตีความหลากหลาย โดยเฉพาะประโยค “ใกล้ขนาดนี้ เธอฟีลรึยัง” ที่โฟร์ทมองว่าเป็นทั้งการยั่วเย้า และการบอกเล่าความสัมพันธ์ที่มีเสน่ห์ “มันเหมือนคนสองคนที่รู้สึกดีต่อกัน แต่ก็มีความกลัวบางอย่าง ถ้าใกล้กันเกินไปอาจเกิด ‘อันตรายต่อหัวใจ’”
ในมิวสิกวิดีโอ ยังมีการเปรียบเปรยความรู้สึกของการแอบชอบเหมือน “ของล้ำค่าในพิพิธภัณฑ์” ที่แม้จะอยากครอบครองแค่ไหน ก็ทำได้เพียงยืนมองอยู่ใกล้ ๆ ความหมายนี้โฟร์ทยอมรับว่า “มันลึกกว่าที่คิดเยอะ และจริง ๆ ก็ตรงกับตัวเองเหมือนกัน ของที่มีค่าแต่บางทีก็เอื้อมไม่ถึง”
การทำงานและการคอลแลบ
สิ่งที่ทำให้ “Side To Side” พิเศษขึ้นไปอีก คือการได้ร่วมงานกับ MABELZ จาก PiXXiE ในฐานะ Featuring Artist ครั้งแรกของโฟร์ทกับศิลปินตัวจริงบนเวทีดนตรี “พี่มาเบลเก่งมาก ทั้งร้อง ทั้งเต้น มีเสน่ห์แบบที่ผมเองยังเผลอแอบก๊อปคาริสม่าของเขามาลองใช้ดู” โฟร์ทเล่าแบบอารมณ์ดี “ถึงสุดท้ายก็รู้ว่ามันเลียนแบบไม่ได้ แต่ก็ได้เรียนรู้เยอะมาก”
เบื้องหลังโปรดักชันยังได้ HYE จาก Paper Planes มาช่วยเป็นโปรดิวเซอร์ ทำให้โฟร์ทได้ลองแนวดนตรีใหม่ที่ไม่เคยร้องมาก่อน “มันเหมือนการปลดล็อกสกิลใหม่เลยครับ ปกติผมยังไม่เคยทำเพลงแนวเต้นแบบนี้ แต่พอได้ลองแล้วกลับรู้สึกสนุกและเข้ากับตัวเองกว่าที่คิด”
คาแรกเตอร์และภาพลักษณ์ใหม่
แฟน ๆ หลายคนแซวว่าคัมแบคครั้งนี้ โฟร์ทเปลี่ยนจาก “หนุ่มไมโครเวฟ” กลายเป็น “หนุ่มฮอต” ไปแล้ว แต่เจ้าตัวกลับมองอย่างตรงไปตรงมา “ผมว่าผมก็เป็นแบบนี้มาตลอด แค่บางมุมยังไม่เคยถูกเห็น พอมีเพลงนี้มันเลยทำให้แฟน ๆ ได้เจออีกด้านหนึ่งของผมเท่านั้นเอง”
ใน MV ยังมี “Art Gallery” ที่แต่ละห้องสะท้อน Passion ของเขา แต่ถ้าให้สร้างเพิ่มอีกสักห้อง โฟร์ทบอกว่าอยากเป็น “ห้องสมุด” สำหรับเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจไทย “ผมชอบหาความรู้เพิ่ม มันทำให้เราเห็นภาพรวมสังคมและเข้าใจโลกมากขึ้น”
ต่อยอดและมุมส่วนตัว
ถ้าเปรียบการตกหลุมรักเป็นเพลง โฟร์ทบอกว่ามันคงเป็นเพลงที่มีจังหวะชัดเจนแบบ Side to Side เลย “เหมือนหัวใจมันเต้นตามจังหวะตึง ๆ ไม่หยุด” ซึ่งสอดคล้องกับความจริงที่ว่าเขากำลังค้นพบมุมใหม่ของตัวเองในฐานะศิลปินที่ชอบเพลงเต้นและสนุกกับการเคลื่อนไหว
“ผมรู้สึกว่าเพลงนี้มันทำให้เจอความเป็นตัวเองอีกแบบหนึ่ง และผมก็อยากทำต่อไปในอนาคต”
ฝากถึงแฟนๆ
ท้ายที่สุด โฟร์ทฝากข้อความถึงทุกคนที่กำลังจะได้ฟัง Side To Side ว่า “อยากให้ทุกคนลองเปิดใจฟังเพลงนี้กันนะครับ ทั้งแฟนคลับของผมและแฟนเพลง T-Pop ทุกคน ไม่ว่าจะติดตามศิลปินวงไหน ผมอยากให้ลองเปิดใจฟังและดู MV กันครับ หวังว่าทุกคนจะรู้สึกสนุกไปกับมันเหมือนที่ผมรู้สึกเวลาได้ร้องและเต้นเพลงนี้”
จาก ซึมซับ สู่ Side To Side โฟร์ทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเติบโตของศิลปินไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแนวดนตรี แต่คือการกล้าเผยอีกมุมของตัวเองที่แฟน ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน