สัปดาห์ฮาโลวีนแบบนี้จะมีอะไรเหมาะไปกว่าการใช้เวลายามค่ำคืนลุ้นระทึกไปกับภาพยนตร์สยองขวัญสั่นประสาท โดยเฉพาะกับคนที่มีคู่ซึ่งผมบอกได้เลยว่าภาพยนตร์แนว Thriller และ Horror นั้น ไม่เพียงสร้างความกลัว แต่หนังตระกูลนี้ยังอาจทำให้เกิดเรื่องราวอีโรติกระหว่างคู่รักได้อีกด้วย! ดังที่ John Kuziel (จอห์น คูเซล) นักจิตบำบัดคนดังได้เขียนอธิบายไว้ว่า อารมณ์กลัวที่เกิดขึ้นขณะชมภาพยนตร์ จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนสร้างความตื่นเต้น ‘อะดรีนาลิน’ และฮอร์โมนแห่งความเครียด ‘คอร์ติซอล’ เพิ่มขึ้น ระดับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ แถมยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้อวัยวะของร่างกายทั้งหมดทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
‘ความกลัว’ ยังมีส่วนในการกระตุ้นพฤติกรรมเรื่องเพศ (อย่างน้อยก็ทำให้คนข้างกายต้องรีบขยับมาแนบชิดเพราะต้องการที่พึ่งขณะกลัว) ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจว่าทำไมมีคู่รักหลายรายที่จูงมือกันไปดูภาพยนตร์ระทึกขวัญไม่แพ้หนังรักโรแมนติก เพราะนอกจากสามารถฉวยโอกาสแนบชิดยามตกใจได้แล้ว ความรู้สึกอยากเป็นที่พึ่งพาและหาที่พักใจก็จะเกิดควบคู่กันไป แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปชมภาพยนตร์สยองขวัญ/ระทึกขวัญในโรงภาพยนตร์ (ซึ่งตอนนี้มีหนังผีของไทยที่กำลังเป็นกระแส ‘ธี่หยด‘ เข้าฉายอยู่) วันนี้ผมจึงขอหยิบเอา 7 หนังเรื่องโปรดที่มักแนะนำคนรอบข้างอยู่เสมอ เพราะนอกจากลุ้นระทึกเขย่าขวัญจนกระเจิงแล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ไอคอนิกที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนสร้างสรรค์ โดยเฉพาะกับเหล่านักออกแบบแฟชั่นที่ต่างก็ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ตระกูลนี้
Halloween, 1978
ภาพยนตร์ที่เป็นตัวแทนของสัปดาห์สยองขวัญ แถมตัวละคร Michael Myers (ไมเคิล ไมเยอร์ส) กับหน้ากากขาวไร้อารมณ์แต่ฆ่าแบบไม่ปรานีก็ยังเป็นหนึ่งในตัวละครไอคอนิกซึ่งเป็นภาพจำอันดับแรกๆ เมื่อพูดถึงฆาตกรไม่มีวันตาย ความสำเร็จของภาพยนตร์ Halloween ทำให้มีแฟรนไชส์หลายภาคนับไม่ถ้วน แถมคาแรคเตอร์อันโดดก็ไปโดนใจนักออกแบบหลายราย อย่างตัวพ่อของแฟชั่นสายดาร์ก Rick Owens ที่นำคาแรคเตอร์ของไมเคิลไปผนวกกับใบหน้าขาวโพลนจากเรื่อง Eyes Without a Face (1960) สำหรับคอลเล็กชั่นชายฤดูหนาว 2016
The Texas Chain Saw Massacre, 1974
หากภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่องใดที่จั่วหัวเอาไว้ว่าสร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริงจะยิ่งทำให้ความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่า! ยิ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อคดีโหดชวนขนลุกขนพองในอดีตด้วยแล้วจึงไม่แปลกใจที่ทำไมคอหนังสยองขวัญจึงหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีการรีบูทแล้วรีบูทอีกแต่ถึงอย่างไรเราก็ตามชมกันทุกภาค Raf Simons (ราฟ ไซมอนส์) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของไลน์ระดับบนชื่อ Calvin Klein 205W39NYC (ปัจจุบันปิดแบรนด์แล้ว) ก็คงประทับใจเช่นกัน Leatherface (เลเทอร์เฟส) จึงกลายเป็นมิวส์ให้คอลเล็กชั่นฤดูร้อน 2018
A Nightmare on Elm Street, 1984
ผมเชื่อว่าวัยรุ่นทั้ง Gen X และ Y น่าจะเคยนอนไม่หลับหรือไม่อยากนอนหลังชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเจ้า Freddy Krueger (เฟรดดี้ ครูเกอร์) อีกตัวละครปีศาจสุดไอคอนิกที่มาพร้อมถุงมือติดใบมีดนั้นมันสามารถปลิดชีพผู้คนได้จากในความฝัน แถมความยียวนกวนโอ๊ยของวิธีสังหารเหยื่อนั้นก็เกินจินตนาการ ลุคสุดกรันจ์ของเจ้านิ้วเขมือบถือเป็นอีกภาพจำที่แบรนด์แฟชั่นชื่อดังเคยหยิบไปใช้ คอลเล็กชั่นชายฤดูหนาว 2010 ของ McQ ไลน์วัยรุ่นของ Alexander McQueen เคยปัดฝุ่นสเวตเตอร์ลายขวางแดง-ดำให้ออกมาดูเทรนด์ดี้สุดๆ
Hellraiser 2, 1988
ภาพยนตร์อีกเรื่องที่ฝากตัวละคร Pin Head (พินเฮด) หรือไอ้หัวตะปูซึ่งมีลุคสุดไอคอนิกเอาไว้ในโลกมายา ด้วยความสยองขวัญ (ส่วนตัวผมนั้นขอยกให้แค่ 3 ภาคแรก และภาครีบูทเมื่อปีที่แล้วเท่านั้นที่น่ากลัว) ชนิดที่ดูไปแล้วปิดดตาไป บวกกับการออกแบบคาแรคเตอร์ที่ไม่ซ้ำใครด้วยลุคแนวเฟติช ทำให้บรรดานักออกแบบที่ชอบความแฟนซีเหนือจริงหลงรักตัวละครในเรื่องนี้ และสร้างผลงานโดยมีแก๊ง Cenobite (ซีโนไบท์) จากขุมนรกเป็นมิวส์อย่างคอลเล็กชายฤดูหนาวปี 2009 ของ Gareth Pugh และฤดูหนาว 2012 ของ Thom Browne
Bram Stoker’s Dracula, 1992
แม้โลกนี้มีภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องราวของแดรกคูลามากมายนับไม่ถ้วน แต่หากถามถึงแดรกคูลาที่อยู่ในใจของคอหนังค่อนโลก ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องเป็นหนึ่งในนั้น เพราะไม่เพียงเนื้อเรื่องสยองขวัญถูกใจคอหนังแนวนี้แล้วแต่องค์ประกอบศิลป์ด้านต่างๆ โดยเฉพาะกับบรรยากาศย้อนยุค และคอสตูมแนวพีเรียดยิ่งช่วยสร้างความประทับใจเพิ่มขึ้นอีกเท่าทวี และแน่นอนว่าดีไซเนอร์ที่มักจะใช้เรื่องราวสยองขวัญเป็นแรงบันดาลใจอย่าง Lee Alexander McQueen (ลี อเล็กซานเดอร์ แม็คควีน) ก็ไม่พลาด โดยอุทิศคอลเล็กชั่นชายฤดูหนาวปี 2006 ให้แก่เรื่องนี้
From Hell, 2001
ภาพยนตร์ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ ‘Jack The Ripper’ (แจ็ค เดอะ ริบเปอร์) ฆาตกรต่อเนื่องคนดังในศตวรรษที่ 19 ที่ก่อคดีสะเทือนขวัญมานับครั้งไม่ถ้วนจนติดชาร์จในหน้าประวัติศาสตร์ของโลก แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วใครคือตัวจริงของฆาตกรรายนี้ และเมื่อพูดถึงชื่อของ Jack The Ripper แล้ว ชื่อของนักออกแบบที่มักโผล่มาคู่กันก็คือ Lee Alexander McQueen เพราะเขาได้แรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานมาจากเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องคนดังตั้งแต่งานจบของเขาในปี 1992 และอีกครั้งคือคอลเล็กชั่นชายฤดูหนาวปี 2009
Dorian Gray, 2009
ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายแบบกอธิคและปรัชญาซึ่งเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 1945 แต่ปี 2009 คือเวอร์ชั่นที่ผมประทับใจ นี่คือภาพยนตร์สยองขวัญที่ไม่ได้น่ากลัวชนิดทำให้กรีดร้องจนขนหัวลุกหรือขนแขนตั้งชัน แต่ตลอดทั้งเรื่องจะทำให้คุณติดตามเรื่องราวการถลำลึกสู่ด้านมืดของชายหนุ่มซึ่งหลงใหลรูปลักษณ์อันงดงามของตนจนยอมแลกทุกอย่างเพื่อประคองมันไว้ Riccardo Tisci (ริคคาร์โด ทิสซี่) อดีตเครเอทีฟไดเร็คเตอร์แห่งเมซง Givenchy เคยใช้คาแรคเตอร์ของ Gray (เกรย์) สำหรับคอลเล็กชั่นชายฤดูหนาว 2015
