หากอยากทำความรู้จักใครสักคนหนึ่งที่มีความเชื่อมโยง ‘ผู้ชายกับเวลา’ ท็อปลิสต์ที่นักสะสมเรือนเวลาเลือกกดฟอลโลว์คือ ‘Frédéric Arnault’ (เฟรเดอริก อาโนลด์) CEO ของ TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาสปอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นอีกหนึ่งแรงผันผวนในเชิงการลงทุนด้วยความเก๋าในเรื่องแม่นยำและรูปลักษณ์เท่ของตัวแบรนด์เองที่มีอายุกว่า 163 ปี และเจ๋งของ เฟรเดอริกที่ทำให้ ‘TAG Heuer’ อย่าง Heuer Autavia, Heuer Carrera และ Heuer Monaco ได้รับความน่าสนใจอีกครั้งในหมู่นักสะสมนาฬิกากับการพัฒนานวัตกรรมยุคใหม่ ฉะนั้นแอลเมนจึงพาคุณมาทำความรู้จักเขาคนนี้ผ่าน 5 สิ่งที่ทำให้รู้จักเขาคนนี้มากขึ้น
เฟรเดอริกเป็นบุตรคนที่สี่ของเบอร์นาร์ด
‘Frédéric Arnault’ เกิดในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 เป็นบุตรคนที่สี่ของ Bernard Arnault (เบอร์นาร์ด อาโนลด์) บุคคลที่ครอบครองทรัพย์สินเป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2023 และเป็นผู้ครอบครอง LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton กลุ่มบริษัทหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีแบรนด์ดังเช่น Dior, Givenchy, Bulgari และ TAG Heuer ที่เฟรเดอริกกุมบังเหียนอยู่รวมอยู่ในอาณาจักรนี้ด้วย
เฟรเดอริกมีความผูกพันกับ TAG Heuer มาตั้งแต่ยังเด็ก
ในวันเกิดปีที่ 11 ของเขาได้รับของขวัญเป็น TAG Heuer Aquaracer จากพ่อ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแบรนด์ สิ่งนี้จึงปูทางให้เขาเดินทางเข้าสู่อุตสาหกรรมนาฬิกาสุดหรู ด้วยความหลงใหลในนาฬิกามาตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกันกับที่เขาใส่โพสลงอินสตาแกรมล่าสุดของเขา
จุดเริ่มต้นของ ‘เฟรเดอริก’ ในอาณาจักร LVMH ของตระกูล
ก่อนจะรับตำแหน่งซีอีโอกับ TAG Heuer (หนึ่งใน LVMH) เขาเริ่มเข้ามาที่นี่ตั้งแต่ปี 2017 ด้วยตำแหน่ง Head of connected technologies เป็นเวลา 1 ปี จากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Strategy and Digital Director ทำอยู่เกือบ 2 ปี เขาก็ได้รับการโปรโมตเป็น Chief Executive Officer (CEO) ในปี 2020 เป็นต้นมา
เฟรเดอริกเป็น CEO ที่อายุน้อยที่สุดในโลกของนาฬิกา
ด้วยความความแตกต่างที่โดดเด่นในของอายุน้อยที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกาเขาจึงเป็นที่น่าจับตามอง ทั้งแนวทางสร้างที่วาง TAG Heuer ในตำแหน่งของความร่วมสมัยด้วยการนำเอาความโดดเด่นของแบรนด์ตั้งแต่อดีตมาผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตลอดจนการวงกลยุทธการรักษาลูกค้าเดิม พร้อมขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วยการวางขาย Carrera Plasma รุ่นลิมิเต็ดที่มีประมาณ 17.6 ล้านบาท ควบคู่เรือนเวลารุ่น Formula One ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท รวมถึงแคมเปญหลายอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ TAG Heuer กลับมาครองใจสายสปอร์ตอีกครั้ง และในอนาคตทางแบรนด์เปลี่ยน Position มุ่งเน้นไปที่ตลาด SmartWatch มากขึ้น สิ่งเหล่านี้จึงทำให้เขากลายเป็นผูบริหารที่น่าเกรงขาม
เฟรเดอริกยังเป็นคนสำคัญในอุตสาหกรรมอื่นในฐานะ ‘ที่ปรึกษา’
นอกจากอุตสาหกรรมหรูหราที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดแล้ว เขายังมีวิสัยทัศน์มองกว้างไปถึงการตระหนักคุณค่าของคนอื่นๆ ด้วยการให้คำปรึกษาแก่ Thierry Breton อดีต CEO ของ France Telecom และกรรมาธิการสหภาพยุโรปในปัจจุบันสำหรับตลาดภายใน และ Tony Fadell บุคคลสำคัญในโลกเทคโนโลยีซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงาน iPod และ iPhone ซึ่งสิ่งนี้เป็นความต้องการของเขาในการนำข้อมูลเชิงลึกจากสาขาต่างๆ มาไปสร้างสรรค์ร่วมกับกลยุทธ์ของ TAG Heuer ที่จะทำให้องค์กรของเขสแข็งแกร่งขึ้น