Words : Poom Petsophonsakul
Illustrator: KITTO
“สำหรับผมแล้ว การวาดรูปจำต้องมีเหตุผลมากพอ รวมถึงต้องมีความปรารถนาในการเริ่มที่จะทำมัน อย่างน้อยควรมีหนึ่งเหตุผล แต่จะดีมาก ถ้ามีหลาย ๆ เหตุผลประกอบด้วย” นี่คือสิ่งที่ Roland Topor (โรล็อง โตปอร์) กล่าวไว้ในวิดีโอสัมภาษณ์ที่ถ่ายทำเก็บไว้เมื่อปี 1980 โตปอร์เป็นศิลปินมากฝีมือที่แทรกซึมอยู่ในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรม ภาพยนตร์ หรือแอนิเมชั่นใด ๆ ก็ตาม ซึ่งเขามักมีชื่อเสียงเรียงนามในฐานะนักวาดภาพประกอบ โดยผลงานส่วนใหญ่ของเขานั้นเป็นศิลปะแนวเหนือจริง (surrealism) และแฝงไปด้วยนัยยะที่เสียดสีสังคม บางผลงานไม่ได้มีสัญญะอะไร แต่ก็ยังให้ความรู้สึกที่ไม่สงบ มีความกวนใจแปลก ๆ ถึงกระนั้นยังคงชักชวนให้อยากกลับมาดูอีกรอบ

Photo: www.auction.fr

ผลงานของเขาประกอบด้วยภาพผู้หญิงที่แหวกหน้าท้องตัวเองและกินลำไส้ที่ทะลักออกมา, ทหารกำลังยืนปัสสาวะข้างกำแพง, ชายที่โดนกำปั้นแสกเข้าไปที่ใบหน้า, ชายที่กำลังวาดหอไอเฟลด้วยการดูแบบจากอวัยวะเพศตัวเอง (เป็นการเสียดสีว่าหอไอเฟลเป็นสิ่งที่อัปลักษณ์ที่สุดในปารีสยุคนั้น) งานส่วนใหญ่เขาถูกตีพิมพ์บนหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสหลายฉบับ แต่โปรเจ็กต์หนึ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดคือ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นแนวทดลองเรื่อง ‘La Planète sauvage’ หรือ ‘Fantastic Planet’ ที่ได้รับรางวัลจากเมืองคานส์ไปเมื่อปี 1973

Fantastic Planet เขียนเนื้อเรื่องโดย René Laloux (เรเน่ ลาลู) และโตปอร์อิงจากนิยายไซไฟเรื่อง Oms en série ของ Stefan Wul (สเตฟาน วูล) บอกเล่าเรื่องราวมนุษย์บนดาวยัม (Ygam) ที่กลายเป็นสัตว์เลี้ยงให้กับมนุษย์ต่างดาวชื่อ ดราก (Draag) เหล่ามนุษย์จึงพยายามต่อสู้เพื่อหลีกหนีการกดขี่จากชาวดรากเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นนี้ถูกตีความว่าเป็นการนำเสนอเรื่องสิทธิสัตว์ ด้วยการเสียดสีจับมนุษย์กลายเป็นสัตว์แทน นักวิจารณ์บางคนเห็นว่าเป็นการชูเรื่องการเหยียดสีผิวมากกว่า แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคืองานแอนิเมชั่นที่ใช้ภาพของโตปอร์มาเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นเหมือนกับการได้เข้าไปสำรวจจินตนาการของโตปอร์อย่างลึกซึ้ง ผ่านการออกแบบสิ่งมีชีวิตสุดประหลาด พืชพรรณที่ชวนขนลุก รวมถึงการออกแบบตัวละครอย่างชาวดรากที่ใคร ๆ ก็สามารถจำได้ขึ้นใจ

ภาพของโตปอร์เคลื่อนไหวคลอไปกับเสียงเพลงน่าพิศวงของ Alain Goraguer (อาแลน กอราเก้) ที่มีโครงสร้างเพลงคล้ายกับเพลง ‘Atom Heart Mother’ ของ Pink Floyd มีกลิ่นอายของเพลงแนวไซเคเดลิก (Psychedelic) แจ๊ซ และฟังก์ ซึ่งเป็นที่นิยมกันในยุค 70 ทำให้ภาพรวมของเรื่อง Fantastic Planet ถูกยกระดับเป็นผลงานแอนิเมชั่นแนวทดลองที่ถูกพูดถึงตลอดกาล
เขาไม่ใช่ศิลปินที่โด่งดังอะไรมากนัก และแรงบันดาลใจของเขาก็ไม่เหมือนกับศิลปินคนอื่น ๆ ที่จะรู้สึกอิ่มเอิบอะไรบางอย่างจนอยากถ่ายทอดไปบนผืนผ้าใบ อย่างที่เขากล่าวในบทสัมภาษณ์ว่า “มันจะดีกว่านี้ หากเหตุผลในการวาดรูปจะมีมากกว่าหนึ่งข้อ ทั้งนี้ เพื่อมั่นใจว่าเราจะยอมสละละทิ้งทุกอย่างไปชั่วขณะเพื่อสร้างผลงานหนึ่งชิ้นขึ้นมา”
โตปอร์มีวิธีอธิบายเหตุผลหลาย ๆ อย่างของเขาว่าเป็น ‘การเร่งเร้า’ (urge) ซึ่งเป็นภาวะอารมณ์ที่ผู้ผลิตงานควรมี เช่น หากคุณคิดว่าคุณเป็นนักวาด คุณต้องพัวพันชีวิตเข้ากับการวาดรูปไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม อย่างการนั่งสเก็ตช์ภาพยามว่าง การซื้ออุปกรณ์ การร่วมงานกับคนอื่น หรือการพูดคุยกับเพื่อนศิลปินหลาย ๆ คน ทั้งหมดนี้คือการปลุกปั่นหรือเร่งเร้าให้จิตวิญญาณเกิดขึ้นเพื่อสร้างผลงานที่ไม่เหมือนใครได้
แม้ว่า โรล็อง โตปอร์ จะไม่ใช่ศิลปินเหนือจริงทัดเทียม Salvador Dali (ซัลวาดอร์ ดาลี) แต่เขามีกระบวนการคิดและวิธีการทำงานในแบบของเขา เท่านี้คงเพียงพอแล้วสำหรับการเป็นศิลปินคนหนึ่ง